4 สถานที่ 4 วัฒนธรรมย่านสีลม ความหลากหลายที่ไม่เคยหลับใหล
เปิดเส้นทางตามรอยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในย่านสีลม กับ 4 จุดหมายที่มีครบทั้งพุทธ คริสต์ จีน และฮินดู ถ้าอยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้าง อ่านได้ที่นี่เลย
สะพายกล้องท่องกรุงกับ 4 สถานที่สะท้อนวัฒนธรรมย่านสีลม
“สีลม” ในสายตาคุณเป็นแบบไหน?
“ถนนสีลม” เป็นถนนสายสำคัญที่ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 แม้ว่าภาพแรกที่ทุกคนเห็นในปัจจุบันจะเต็มไปด้วยอาคารสูงซึ่งบ่งบอกถึงความเจริญและความทันสมัย แต่หากกะเทาะเปลือกแห่งยุคสมัยออกไป จะพบกับ 4 แหล่งวัฒนธรรมรอบ ๆ ย่านสีลมที่ยังคงความงดงามเหนือกาลเวลาเอาไว้ และรอให้เราได้ไปค้นพบภาพสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายของทั้งชาวพุทธ คริสต์ จีน และฮินดู เอาไว้ได้อย่างลงตัว ถ้าพร้อมแล้ว สะพายกล้องคู่ใจและออกเดินทางกันเลย

วัดพระศรีมหาอุมาเทวี
เริ่มตั้งต้นกันที่จุดหมายแรก ซึ่งตั้งอยู่ในหัวมุมของถนนสีลมและถนนปั้น นั่นก็คือ “วัดพระศรีมหาอุมาเทวี” หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าวัดแขก ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2453-2454 เป็นเทวสถานเก่าแก่ของชาวฮินดูในประเทศไทยที่นับถือนิกายศักติ และเข้ามาตั้งบ้านเรือนในบริเวณริมคลองสีลมและบางรัก
วัดพระศรีมหาอุมาเทวีเป็นหลักฐานของวัฒนธรรมอันหลากหลายย่านสีลม ด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปะเก่าแก่ที่มีต้นแบบมาจากเทวสถานทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย ภายในประดิษฐานเทวรูปของพระแม่มาริอัมมัน ซึ่งเป็นอวตารของพระแม่อุมาเทวี รวมไปถึงเทพองค์อื่น ๆ โดยวัดแห่งนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว และผู้ที่ต้องการมาขอพรเรื่องความรักและขอบุตร

โบสต์เซ็นต์หลุยส์
เดินลัดเลาะมาไม่ไกลจากถนนปั้น เข้าสู่ถนนสาทร ก็จะถึง “โบสถ์เซ็นต์หลุยส์” ศาสนสถานของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2501 โดยคุณพ่อหลุยส์ โชแรง ซึ่งเป็นสังฆราชปกครองมิสซัง กรุงเทพฯ ในขณะนั้น โบสถ์แห่งนี้บ่งบอกความหลากหลายทางวัฒนธรรมย่านสีลม เพราะมีชาวตะวันตกเดินทางเข้ามาค้าขายและเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในประเทศไทยมาอย่างช้านาน ควบคู่ไปกับการขยายตัวของชุมชน ซึ่งในขณะเดียวกันโบสถ์เซ็นต์หลุยส์ได้ถูกสร้างขึ้น เพื่อช่วยลดความหนาแน่นของคนที่ต้องการไปโบสถ์อัสสัมชัญหรือโบสถ์กาลหว่าร์ในบริเวณใกล้เคียงด้วยนั่นเอง
หากใครที่ได้ไปเยี่ยมชมโบสถ์ในช่วงที่ไม่มีการประกอบพิธี สามารถไปชื่นชมกับศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบโกธิคของโถงกลาง ซึ่งมีลักษณะเป็นหลังคาโค้งแหลม รวมไปถึงประติมากรรมรูปปั้นของนักบุญองค์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมชาวคริสต์ในย่านสีลมได้อีกด้วย

ศาลเจ้าเจียวเองเบี้ยว
เดินทางต่อมาบนถนนสาทรเหนือ มุ่งหน้าไปยังสะพานตากสิน ก็จะพบกับ “ศาลเจ้าเจียวเองเบี้ยว” หรือศาลเจ้าบางรัก ศาลเจ้าของชาวจีนไหหลำที่มีอายุมากกว่า 150 ปี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมของย่านสีลม ซึ่งในอดีต ย่านบางรักเป็นท่าเรือสินค้าซึ่งมีชาวต่างชาติ รวมถึงชาวจีน เดินทางเข้ามาค้าขายและขนสินค้าขึ้น-ลงเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงกลุ่มชาวจีนไหหลำ 108 คน ที่กำลังจะเดินทางออกจากท่าเพื่อไปค้าขายต่อยังประเทศเวียดนาม แต่กลับถูกเข้าใจผิด คิดว่าเป็นโจรสลัด ทั้งหมดจึงเสียชีวิตอยู่ที่นั่น ศาลเจ้าแห่งนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงชาวจีนกลุ่มนั้นและเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องคุ้มครองเหล่านักเดินทางในปัจจุบัน
ภายในศาลเจ้าประดิษฐานเทพเจ้าที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวจีน ทั้งเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม (แม่ย่านางจีน) รวมไปถึงบู๊นท๋ากง หรือปุนเถ้ากง ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนโพ้นทะเลเชื่อว่าจะคอยดูแลคุ้มครองชุมชนให้อยู่เย็นเป็นสุข

วัดยานนาวา
อีกฟากหนึ่งของศาลเจ้าเจียวเองเบี้ยวคือ “วัดยานนาวา” วัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ “วัดคอกควาย” ก่อนจะได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงและเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดคอกกระบือ” ในสมัยกรุงธนบุรี และในที่สุดได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดยานนาวา” เมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3
ซึ่งพระสำเภาเจดีย์ภายในวัดแห่งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ด้านเศรษฐกิจในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในสมัยรัชกาลที่ 3 การค้าระหว่างสยามกับชาวต่างชาติมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก โดยจะใช้สำเภาจีนในการทำค้าขายเป็นหลัก แต่เมื่อผู้คนเริ่มเปลี่ยนมาใช้เรือกำปั่นแบบตะวันตก รัชกาลที่ 3 จึงโปรดฯ ให้สร้างเจดีย์รูปสำเภาจีนขึ้น ก่อนที่เรือแบบดังกล่าวจะกลายเป็นของหาดูยากในเวลา
หากได้เดินซึมซับกับบรรยากาศโดยรอบจะเห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของย่านสีลมเรื่อยมาจนถึงย่านบางรัก ที่สะท้อนให้เราเห็นถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และส่งผลให้ย่านนี้มีเสน่ห์ เป็นเอกลักษณ์ จนหล่อหลอมให้เกิดวัฒนธรรมของย่านสีลมในแบบเฉพาะตัวที่น่าค้นหา หากใครต้องการทำความรู้จักกับย่านสีลมให้มากยิ่งขึ้น ลองใช้เวลาช่วงวันหยุดมาพักผ่อนที่โรงแรม Triple Two Silom ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมากมาย เพื่อเติมเต็มวันพักผ่อนในกรุงเทพฯ ของคุณให้มีสีสันและผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่